Powered by Blogger.
RSS

สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด

สุดยอด 5 ผลไม้บำรุงเลือด

ขอบคุณข้อมูลจาก "ซุปซิปดอทคอม"


 "ผลไม้ช่วยดูแลผิวพรรณ" ประโยชน์ของผลไม้อาจไม่ใช่เพียงบำรุงผิวพรรณ แต่ยังช่วยบำรุงเนื้อเยื่อและเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายของเราให้แข็งแรงอีกด้วย ซึ่งความจริงแล้วอาหารหมวดผลไม้ก็สามารถให้สารอาหารหลัก เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก รวมถึงกรดอะมิโนจำเป็นต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกับอาหารในหมวดข้าว แป้ง และไขมัน สำหรับ Fruitful Tips ฉบับนี้ขอเน้นผลไม้ที่ดีต่อเซลล์เม็ดเลือดแดงของเรา ซึ่งเป็นปัจจัยภายในที่ทำให้สาว ๆ ดูเปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก

"ฮีโมโกลบิน" มาจากการรวมตัวกันของธาตุเหล็ก และโปรตีน

           ฮีม คือ องค์ประกอบของธาตุเหล็ก ทำหน้าที่ดักจับออกซิเจนจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
           โกลบิน คือ โปรตีน ทำหน้าที่ผลิตเลือดจากสายพันธุกรรมของเรา

ธาตุเหล็กสำคัญต่อเลือด

          เลือดที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายของเราขึ้นอยู่กับปริมาณฮีโมโกลบิน ซึ่งฮีโมโกลบินเป็นส่วนประกอบหลักของเซลล์เม็ดเลือดแดง สาเหตุที่เลือดเป็นสีแดงก็เพราะในฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) มีสารประกอบสีแดงอยู่เป็นส่วนใหญ่ และมีองค์ประกอบของธาตุเหล็กอยู่ประมาณร้อยละ 65-67

          ดังนั้นจึงถือได้ว่าร่างกายของเราสามารถสร้างธาตุเหล็กขึ้นมาเองตามธรรมชาติ และจะถูกร่างกายนำไปสร้างเป็นโปรตีนเพื่อไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเราควรมีประมาณฮีโมโกลบินประมาณ 20-30 ล้านล้านเซลล์จึงจะถือว่าอยู่ในระดับปกติ ดังนั้นหากจะกระตุ้นร่างกายให้ผลิตฮีโมโกลบินก็ควรบำรุงร่างกายด้วยอาหารที่ มีธาตุเหล็กในปริมาณที่เหมาะสมนั่นคือประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อวัน

อาการเมื่อปริมาณฮีโมโกลบินในร่างกายต่ำ

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กรณีคือ

           กรณีไม่ร้ายแรง อาการกรณีนี้สามารถดีขึ้นจนหายไปเอง หากได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ หรือบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะเข้าสู่ร่างกาย เช่น เหนื่อยล้า หายใจถี่ ใจสั่น ปวดศีรษะ มึนงง เป็นลม มือเท้าเย็นเจ็บบริเวณหน้าอก ไม่มีสมาธิ เบื่ออาหาร และสีผิวเปลี่ยนไปเป็นขาวซีด จนม่วงคล้ำดูไม่มีน้ำมีนวล

           กรณีเป็นโรคทางพันธุกรรม กรณีนี้ควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากมีระยะการเจริญพันธุ์ของโรคและอาการแฝง เช่น โรคธาลัสซีเมีย (โรคเลือดจาง) อาจมีอาการแฝงคือ อะเนเมีย (Anemia) หรือภาวะร่างกายสร้างฮีโมโกลบินผิดปกติ เป็นต้น

5 ผลไม้ที่ดีต่อระบบการไหลเวียนโลหิต

 
 1.ทับทิม 

          ผลการวิจัยในสหรัฐพบว่า ทับทิมสามารถรักษาผู้ป่วยเบาหวานได้ด้วยคุณสมบัติช่วยกักเก็บเซลล์เม็ดเลือด แดง โดยให้ผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 10 คนดื่มน้ำทับทิมคั้นสดวันละ 1 แก้ว (6 ออนซ์) เป็นเวลา 3 เดือน ผลคือร่างกายมีระดับอินซูลินในกระแสเลือดลดลง ระบบไหลเวียนโลหิตเป็นปกติขึ้น อาการมึนงง อ่อนเพลีย และผมร่วงลดลง อีกทั้งผิวพรรณก็สดใสขึ้นกว่าเดิม
 
 2.แก้วมังกร

          อุดมด้วยโปรตีนจึงช่วยเติมร่องรอยผิวให้ดูเรียบตึง ผลการวิจัยพบว่า แก้วมังกรเนื้อแดงดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต และมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือด นอกจากนี้ไฟเบอร์ในผลแก้วมังกรยังช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงบริเวณช่องคลอด บรรเทาอาการตกขาวที่ผิดปกติ (มีสีเหลืองปนหนอง ปนเลือดและมีกลิ่นเหม็น)
 
 3.สตรอว์เบอร์รี่

          ด้วยคุณสมบัติของวิตามินซีที่อุดมอยู่ในผลสตรอว์เบอร์รี ช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดง เมล็ดเล็ก ๆ ที่อยู่ในเนื้อสตรอว์เบอร์รีช่วยลำเลียงออกซิเจนในกระบวนการขจัดเลือดเสีย จากผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food Chemistry พบว่าอาสาสมัครผู้บริโภคสตรอว์เบอร์รีสดทุกวันประมาณ 2 ถ้วยตวงติดต่อกันนาน 1 เดือน มีผลการตรวจเลือดพบว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นอย่างเป็นปกติมากขึ้นคือ 4, 8, 12, 16 เซลล์จึงส่งผลให้ผิวพรรณภายนอกดูเรียบเนียนเปล่งปลั่งขึ้น
 
 4.กล้วย

          ด้วยคุณสมบัติของแร่ธาตุแมกนีเซียมที่อุดมอยู่ในกล้วย ช่วยบำรุงผิวที่ขาวซีดให้กลับมาเปล่งปลั่งดูมีเลือดฝาด จากผลการวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ใน American Journal of Epidemiology เผยว่าการบริโภคกล้วยเป็นประจำทุกวันส่งผลต่อสุขภาพเลือดคือ ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคลูคีเมีย (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) โดยเฉพาะในเด็กช่วงอายุ 0-2 ปี

 5.แตงโม

          จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยเนราดาในสหรัฐเผยว่า หากบริโภคแตงโมเพียงครึ่งผลต่อวันดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต เพราะกรดอะมิโนอาร์จีโนน์ (Arginine) ที่ร่างกายเปลี่ยนให้เป็นสารในตริกออกไซด์ (Nitric oxide) ทำให้เลือดสมบูรณ์ขึ้นถึงร้อยละ 22 จึงช่วยป้องกันภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย และภาวะหลอดเลือดแข็งตัว

          ไม่ใช่แค่ธาตุเหล็กและโปรตีนเพียงเท่านั้นที่จะช่วยให้อวัยวะภายในของเราผลิต เลือดได้อย่างเป็นปกติ แต่ยังมีวิธีที่ง่าย ๆ อีกสองสิ่งคือ การดื่มน้ำเปล่าให้บ่อยครั้งในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยให้เลือดของเราไม่ มีลักษณะข้นเหนียวจนเกินไปด้วย นอกจากนี้ยังต้องทำกายบริหารทุกวัน เพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนอยู่ตลอด เพียงเท่านี้ก็ช่วยปกป้องร่างกายของเราให้ห่างไกลปัญหาสุขภาพทั้งในระยะสั้น และระยะยาวได้แล้ว
สุดยอด 5 ผลไม้ บำรุงเลือด บทความ อาหารเพื่อสุขภาพ  เมื่อ : 28 ก.ย. 55 22:40:58 ที่มา: www.kapook.com  โดย : kura

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

6 ข้อดีของผลไม้สารพัดส้ม

6 ข้อดีของผลไม้สารพัดส้ม
 

ขอบคุณข้อมูลจาก "ซุปซิปดอทคอม"
บำรุงผิว
ส้มเป็นผลไม้นางเอก เพราะพืชผลในครอบครัวส้มจะมีสารไฟโตนิวเทรียนต์มากมาย ที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารกลุ่มฟลาวาโนนส์ สารแอนโธไชยานินส์ สารโพลีฟีนอลส์ และวิตามินซี ที่ช่วยทำให้ผิวสวยกระจ่างใสค่ะ
เสริมสร้างกระดูก
เชื่อหรือไม่ว่าน้ำส้มสามารถให้แคลเซียม และวิตามินดีแก่ร่างกายได้ดีพอ ๆ กับนม และแคลเซียมจะไปเสริมสร้างกระดูก แต่ถ้าไม่มีวิตามินดี ร่างกายจะไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมจากอาหารได้ นอกจากนี้ น้ำส้มยังมีวิตามินซี ซึ่งจะช่วยเพิ่มกระบวนการดังกล่าวอีกด้วย แต่จำไว้ว่า กรดอะซีติกในผลไม้จำพวกนี้อาจทำลายสารเคลือบฟันได้ จึงไม่ควรแปรงฟันภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากดื่มน้ำผลไม้
ปกป้องหัวใจ
เปลือกของผลไม้ตระกูลส้มมีสารมหัศจรรย์อยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นคือการ Polymethoxylated Flavones (PMFs) และสาร D-Limonene ซึ่งจะช่วยลดคอเลสเตอรอล ปรับระดับน้ำตาลในเลือด และกระตุ้นการกรองสารพิษของตับ นอกจากนี้ การศึกษายังชี้ว่า เม็ดสีในส้มเขียวหวานจะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) โดยไม่ส่งผลต่อคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) แล้วก็อย่าเอ็ดไปนะคะ ความจริงแล้วเปลือกส้มอาจลดคอเลสเตอรอลได้ดีกว่ายาปฏิชีวนะบางตัว ที่ขายกันตามท้องตลาดเสียอีก
ขับง่ายถ่ายคล่อง
ตำรับจีนมักจะเสิร์ฟเปลือกส้มคู่กับอาหาร เนื้อสัตว์ เพื่อย่อยอาหารที่มีไขมันสูง บางตำราแนะนำให้เริ่มวันใหม่ด้วยน้ำเลมอน 12 ออนซ์ ผสมกับน้ำกรองแล้วที่อุณหภูมิปกติ จะช่วยชะล้างของเสียในระบบย่อยอาหารและลำไส้ได้ เพราะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ
ดูแลสายตา
ผลไม้ตระกูลส้มอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยปกป้องแก้วตาจากโรคต้อกระจก และการศึกษายังพบว่าการบริโภควิตามินอีและซีในปริมาณมาก จะช่วยป้องกันโรคต้อกระจกได้ แม้แต่ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคนี้สูง
อารมณ์ดี๊-ดี
จะทานก็ได้ จะดมก็ดี เพราะส้มมีสารโฟเลต ซึ่งจะช่วยให้สมองหลั่งฮอร์โมนซีโรโทนิน อันเป็นสารแห่งความสุข กลิ่นของผลไม้ครอบครัวนี้ก็สามารถทำให้เราเบิกบานได้เช่นกัน ลองแต้มน้ำมันหอมที่สกัดจากผลไม้เหล่านี้บริเวณท้ายทอยสิคะ รับรองสดชื่นแน่นอน!
6 ข้อดี ผลไม้สารพัดส้ม บทความ อาหารเพื่อสุขภาพ เมื่อ : 18 พ.ค. 55 18:06:15 ที่มา: http://www.sanook.com  โดย : kura 

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

7 อาหารพิชิตหวัด



ขอบคุณข้อมูลจาก "ซุปซิปดอทคอม"
 ช่วงนี้คนใกล้ตัวไอ จาม เป็นหวัดกันระนาว จะหลีกหนีให้ไกลหรือใส่ผ้าปิดจมูกกันตลอดเวลาคงไม่สะดวก จึงขอป้องกันตัวเองง่าย ๆ ด้วยการเลือกกิน สร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายกันดีกว่า

           บรรดาโรคและอาการที่มาเยือนร่างกายเราบ่อยก็เห็นจะเป็นปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ เป็นหวัดนี่ล่ะ เวลาเป็นทีก็รู้สึกอ่อนเปลี้ยเรี่ยวแรงหดหาย สมองไม่ปรู๊ดปร๊าดอย่างเคย อาการเหล่านี้มีโอกาสเกิดได้ง่ายถ้าร่างกายคุณอ่อนแอขณะที่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย กินอาหารไม่ถึง และถ้าบวกเข้ากับอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยวันหนึ่งแทบจะ 3 ฤดูอย่างเช่นทุกวันนี้ก็ยิ่งมีโอกาสเป็นหวัดกันได้ง่าย ๆ

           ดังนั้น เราเลยนำเกร็ดความรู้เรื่องอาหารที่จะช่วยทั้งป้องกันและบำบัดอาการหวัดมาบอกค่ะ

1 ซุปไก่น้ำแกงชั้นยอด

           อาหารง่ายๆ ที่เรียกได้ว่าเป็นเพนนิซิลินธรรมชาติ และถือเป็นท็อปลิสต์ในบรรดาอาหารพิชิตหวัดทั้งหมด ในแง่ที่สามารถบำบัดอาการได้ดีที่สุด ซุปไก่ร้อน ๆ ช่วยให้ทางเดินหายใจสะดวกขึ้น ให้พลังงาน และถ้าเพิ่มผักเข้าไปด้วยโดยเฉพาะหอมใหญ่ กระเทียม ก็จะยิ่งเพิ่มสรรพคุณในการบำบัดอาการมากยิ่งขึ้นค่ะ
2 อาหารเผ็ดซี้ด

           อาหารจัดจ้านแบบนี้ล่ะค่ะช่วยให้จมูกโล่งหายใจสะดวกดีนัก เมนูแนะนำต้องนี่เลย ต้มยำ เพราะมีนานาสมุนไพรที่นอกจากแก้หวัดแล้ว ยังช่วยขับลมและย่อยอาหาร หรือจะเป็นเปปเปอร์มินต์ซุปหรือจริง ๆ ก็ต้มจืดใบสาระแหน่นี่ล่ะค่ะ สูตรนี้ไม่ยาก เหมือนแกงจืดตำลึงทุกอย่างค่ะ แค่เปลี่ยนจากใบตำลึงเป็นสาระแหน่เท่านั้น เหมาะกับคนที่มีอาการคัดจมูก หายใจไม่สะดวกมาก ๆ ค่ะ

3 กระเทียมไร้เทียมทาน

           ช่วยขับเสมหะ และมีคุณสมบัติเป็นยาแก้อักเสบ และในกระเทียมมีสารตัวหนึ่งชื่อ alliin เชื่อกันว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำลายอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์ ช่วงนี้คุณอาจเพิ่มปริมาณกระเทียมที่ใส่ในอาหารให้มากขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย และมีข้อควรระวังคือไม่ควรกินกระเทียมขณะที่ท้องว่าง เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะได้

4 น้ำ

           เป็นช่วงที่คุณต้องเติมน้ำให้กับร่างกายมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่าบริสุทธิ์ น้ำผลไม้สด ๆ 100% น้ำอัดลม หรือจะเป็นน้ำจากผักผลไม้สดได้ทั้งนั้น แต่ที่ดีที่สุดก็ต้องน้ำเปล่าค่ะ สำหรับบางคนการได้ดื่มอะไรร้อน ๆ จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น ก็อาจเลือกเป็นชาสมุนไพร เช่น ชาคาร์โมมายล์ ชาเปปเปอร์มินต์ หรือจะจิบน้ำอุ่น ๆ ลอยด้วยมะนาวฝานก็ช่วยได้ดีทีเดียวค่ะ

5 ขุนพลตระกูลส้ม

           ช่วงเป็นหวัดร่างกายจะต้องการวิตามินซีมากเป็นพิเศษค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่สูบบุหรี่ซึ่งมีโอกาสเป็นหวัดง่ายกว่าคนไม่สูบ ร่างกายก็จะต้องการวิตามินป้องกันมากเป็นพิเศษ ฉะนั้นพยายามกินส้มหรือผลไม้ตระกูลส้มให้มาก ไม่ว่าจะกินผลสดเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหาร หรือจะเป็นน้ำส้มคั้นในมื้อเช้าก็แล้วแต่ความชอบความสะดวก แต่ผลไม้ยิ่งสดเท่าไหร่ยิ่งเป็นวิตามินซีคุณภาพกับร่างกายมากเท่านั้น

6 นานาวิตามินซี

           ไม่ใช่แค่ผลไม้ตระกูลส้มเท่านั้นที่มีวิตามินซีสูง ผลไม้ชนิดอื่นก็สามารถร่วมด้วยช่วยกันเป็นกองกำลังช่วยร่างกายต่อสู้กับอาการจากหวัดได้ เช่น สับปะรด สตรอว์เบอรี่ ฝรั่ง หรือแม้แต่มันฝรั่ง พริกไทยสดก็มีวิตามินซีสูงเช่นกันค่ะ

7 ขิงแก่แต่สด

           ขิงสด ๆ ช่วยรักษาอาการไอและไข้ได้ แต่คุณอาจเลือกกินเป็นน้ำเต้าฮวยร้อนๆ น้ำขิงชงสำเร็งรูป หรือจะลองทำชาขิงดื่ม ง่าย ๆ แค่รินน้ำร้อน 1 ถ้วยลงบนขิงสดทุบ 2 ช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้ 5-10 นาที

อาหารพิชิตหวัด บทความ อาหารเพื่อสุขภาพ เมื่อ : 16 ส.ค. 55 18:25:14 ที่มา: www.kapook.com  โดย : kura

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

8 ผลไม้ลดความอ้วน ที่สาว ๆ ต้องลิ้มลอง

8 ผลไม้ลดความอ้วน ที่สาว ๆ ต้องลิ้มลอง

ขอบคุณข้อมูลจาก "ซุปซิปดอทดอม"

คุณ สาว ๆ คนไหนที่ปรารถนาจะมีหุ่นเพรียวสวยได้สัดส่วน ก็มักจะเลือกทานผลไม้เป็นของว่าง หรือบางรายก็ทานผลไม้แทนอาหารหลักบางมื้อเลยทีเดียว เพื่อที่ตัวเลขบนเครื่องชั่งน้ำหนักจะได้ลดลงสมใจ ว่า แต่...จะเลือกทานผลไม้อะไรดีล่ะ ถึงจะช่วยลดความอ้วนได้แบบสบาย ๆ แถมยังอิ่มท้อง วันนี้ เราก็มีผลไม้ 8 ชนิด ที่จะช่วยให้คุณสาว ๆ ลดความอ้วนได้ไม่ยากมาบอกกัน
 
 แอปเปิ้ล

          ผลไม้สีแดง ๆ เขียว ๆ นี้ สามารถช่วยคุณสาว ๆ ลดความอ้วนได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะ เพราะแอปเปิ้ลได้ชื่อว่าเป็นราชาของผลไม้ลดน้ำหนัก เนื่องจากแอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหาร หรือไฟเบอร์มากมาย เมื่อทานเข้าไปแล้ว จะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มท้องนาน เพราะน้ำตาลฟรักโทสในแอปเปิ้ลจะเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ช่วยให้ร่างกายไม่รู้สึกหิว

          นอกจากนั้นแล้ว แอปเปิ้ลยังให้พลังงานเพียงแค่ 59 แคลอรี จึงไม่ทำให้อ้วน แถมยังมีวิตามิน แร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย โดยเฉพาะ "เพคติน" ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก มันจึงไปเพิ่มกากใยในอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ จึงช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยจับคอเลสตอรอล และช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายได้ด้วย
ฝรั่ง

          สุดยอดผลไม้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินซีชนิดนี้ ช่วยให้คุณลดความอ้วนได้ไม่ยาก เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ แถมยังเคี้ยวเพลินอีกต่างหาก จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่อยากกินจุบกินจิบเรื่อย ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ว วิตามินซีในฝรั่งยังช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ไร้ริ้วรอยอีกด้วย

          เพราะฉะนั้น หิวครั้งหน้า ก็อย่าลืมคว้าฝรั่งมาทานแทนขนมกรุบกรอบนะคะ อ๊ะ...คำเตือนก็คือ ทานแต่ฝรั่งเปล่า ๆ เท่านั้นนะ อย่าเผลอจิ้มพริกเกลือ พริกน้ำตาล เด็ดขาด เพราะจะทำให้อ้วนได้นะเออ

 แตงโม

          แตงโมลูกโต ๆ รสหวาน ๆ ไม่ได้ทำให้คุณอ้วนแต่ประการใด เพราะแตงโม 1 ถ้วย ให้พลังงานเพียง 50 แคลอรีเท่านั้น แถมยังให้ไขมันน้อยนิด และยังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำถึง 93% ของส่วนประกอบทั้งหมด ทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็ว เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกลัวเลยว่า แตงโม จะทำให้คุณสาว ๆ อ้วนได้ ตรงกันข้าม หากรับประทานแตงโมแทนอาหารมื้อเย็นหนัก ๆ ก็ช่วยลดความอ้วนได้ด้วย แต่ควรทานอย่างพอดี ไม่มากไปนะจ๊ะ ไม่เช่นนั้นท้องไส้จะปั่นป่วนเอาได้ แถมยังต้องเข้าห้องน้ำปัสสาวะบ่อย ๆ ด้วย

 
ส้ม

          สาว ๆ หลายคนมักแกะกากส้มออกจนหมด เพื่อให้ทานได้ง่าย ๆ แต่รู้ไหมว่า คุณกำลังทิ้งของดีไปเสียแล้ว เพราะกากใยของส้มนั่นแหละคือสิ่งที่จะช่วยควบคุมน้ำหนักตัวให้สาว ๆ ได้ โดยกากใยจะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว และช่วยทำให้ระบายท้องได้ดี อย่างไรก็ตาม ส้ม เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับผลไม้ลดความอ้วนชนิดอื่น ๆ ดังนั้น ควรรับประทานแต่พอดีแล้วกันนะ

 มะละกอ

          มะละกอ เป็นผลไม้ที่ช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย แถมยังช่วยกำจัดไขมันต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ด้วย โดยมะละกอมีเอนไซน์ปาเปน ที่จะช่วยย่อยโปรตีน และย่อยอาหาร จึงช่วยลดน้ำหนักได้อีกทางด้วย ส่วนใครที่อยากมีผิวพรรณสวย มะละกอ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสน เพราะมะละกอมีวิตามินซี และเบตาแคโรทีนสูง จึงช่วยบำรุงผิวพรรณได้

 แก้วมังกร

          แก้วมังกรเป็นผลไม้ที่ช่วยให้คุณอิ่มท้องได้ง่าย ๆ ไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น เพราะแก้วมังกรมีกากใยสูงและแคลอรีต่ำ แถมยังมีรสหวานอร่อย หลาย ๆ คน จึงเลือกรับประทานแก้วมังกรเป็นอาหารเย็น หรือทานรวมกับผักสลัดอื่น ๆ เพื่อช่วยลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องห่วงว่าจะความหวานจะไปเป็นไขมันสะสมในภายหลัง

          และนอกจากลดน้ำหนักแล้ว ผลพลอยได้จากแก้วมังกรที่คุณสาว ๆ ไม่ควรพลาดอีกเช่นกันก็คือ แก้วมังกรเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีวิตามินซีสูงมาก ดังนั้น จึงช่วยบำรุงผิวพรรณไปในตัว แถมยังช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนมดีต่อคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรด้วย
 
 กีวี

          อีกหนึ่งผลไม้ยอดนิยมของสาว ๆ ที่ปรารถนาจะลดน้ำหนักเลยล่ะ เพราะกีวีเป็นผลไม้ที่มีกากใยมากกว่าแอปเปิ้ลและส้มถึง 25% ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและนาน แถมยังมีวิตามินซี และวิตามินอีสูง ซึ่งจะช่วยให้ผิวพรรณสดใส ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดคอเลสเตอรอลในเลือด บำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดงให้แข็งแรง และช่วยสลายไขมันในเลือดด้วย ใครที่ชอบทานกีวีจึงได้ประโยชน์จากกีวีแบบหลายเด้งเลย

 เกรปฟรุต 

          สุดยอดผลไม้ไดเอตที่กำลังเป็นที่นิยม เพราะเมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า การกิน "เกรปฟรุต" ครึ่งลูกก่อนมื้ออาหารจะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้อย่างเหลือเชื่อ โดยสามารถลดปริมาณแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรีต่อวันเชียวนะ แถมเกรปฟรุตครึ่งลูกก็มีแคลอรีเพียงแค่ 39 แคลอรีเท่านั้นเอง

ผลไม้ ลดความอ้วน สาว ๆ ลิ้มลอง บทความ อาหารเพื่อสุขภาพ  เมื่อ : 21 ส.ค. 55 19:45:38 ที่มา: www.kapook.com  โดย : kura 

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

9 อาหารใกล้ตัว รับรองกินแล้วสวย


9 อาหารใกล้ตัว รับรองกินแล้วสวย

ขอบคุณข้อมูลจาก "ซุปซิปดอทคอม"

อยากสวยต้องเริ่มจากภายใน และอะไรจะช่วยคุณได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่อาหาร มาดูกันว่า อาหารอะไรบ้างที่จะทำให้คุณสวย

 1.เม็ดเก๋ากี้

          มีชื่อกิ๊บเก๋ว่า "โกจิเบอร์รี่" ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารที่มีสารอาหารเต็มเปี่ยมมากที่สุดที่คุณจะได้กิน เจ้าเม็ดเหล่านี้ มีกรดไขมันจำเป็น สารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ วิตามินบี และกรดอะมิโน ซึ่งไม่เพียงช่วยเรื่องผิวเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคอื่น ๆ อีกด้วย
 

 2.อะโวคาโด และมะกอก

          อาหารที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวโมเลกุลเดี่ยวจะช่วยให้ผิวของคุณเยาว์วัยและเต่งตึงขึ้น เช่น มะกอก อะโวคาโด และบัควีต ซึ่งอย่างหลังยังมีฟลาวานอยด์ชื่อ Rutin ที่จะช่วยให้ผิวยืดหยุ่นอีกด้วย

 3.กิมจิและโยเกิร์ต

          อาหารตองตามธรรมชาติเหล่านี้จะมีโปรไบโอติกส์อยู่มาก ซึ่งจะช่วยให้ระบบขับถ่ายของคุณแข็งแรง และระบบขับถ่ายที่แข็งแรงจะช่วยดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นและทิ้งกากกับสารพิษที่คุณไม่ใช้ออกไป อย่างไรก็ดี ควรจำไว้ว่า โปรไบโอติกส์จะตาย หากผ่านความร้อนสูง หรือการบรรจุกระป๋อง

 4.แตงกวา

          เห็นอย่างนี้แต่แตงกวาก็เต็มไปด้วยแร่ธาตุซิลิกา ที่ช่วยให้เส้นผมและเล็บของคุณแข็งแรง
 

 5.สาหร่าย

          สาหร่ายมีทั้งไอโอดีนและกรดอะมิโน ซึ่งจำเป็นอย่างมากต่อเส้นผมที่งดงาม

 6.ขิง

          เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยขิงมีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบ และใต้ตาบวมที่เกิดจากการนอนไม่พอได้

 7.คะน้า หัวหอม และกระเทียม

          เพราะซัลเฟอร์คือหนึ่งในสารที่ช่วยเพิ่มความสวยของคุณ โดยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและทำให้ผิวเปล่งประกาย พร้อมกับช่วยล้างพิษในตับและผิวหนัง และสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใหม่ นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระจำพวกฟลาวานอยด์ชื่อ Quercetin ที่ช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระอีกด้วย
 

 8.หอยแครงและหอยแมลงภู่

          สังกะสีในหอยเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการซ่อมแซม และการสร้างใหม่ของผิวหนัง

 9.แครอท และผักใบเขียว

          การกินอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูงจะทำให้คุณสวย (และแข็งแรง) มันช่วยขับสีผิวของคุณให้เปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในสาว ๆ ที่มักจะบ่นว่าตัวเองผิวซีด

 ระวังให้ดี

          ถ้าอยากสวยต้องเลี่ยงอาหารที่ทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูง อย่างเช่น แป้งขัดสี น้ำตาขัดขาว เค้ก ขนมปัง ฯลฯ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

10 สุดยอดอาหารที่ควรทานทุกวัน

ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บกระปุก


ไม่ว่าใคร ๆ ก็ล้วนแล้วอยากจะมีสุขภาพที่ดีไม่ต่างกัน ดังนั้น การดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จึงเป็นวิธีง่าย ๆ ที่หลาย ๆ คนเลือกใช้และที่สำคัญ มันให้ผลลัพธ์ที่ดีซะด้วยสิ  โดยเฉพาะเรื่องการรับประทานอาหารที่ทำให้สุขภาพดีจากภายใน ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำให้ได้ทุกวันเลยล่ะ 

          อ๊ะ ๆ แต่รู้มั้ยคะว่า นอกจากการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่แล้ว หากคุณได้รับประทาน "สุดยอดอาหาร" ในทุก ๆ วันแล้ว ยิ่งทำให้คุณมีสุขภาพดีมากขึ้นไปอีก เอ? ว่าแต่สุดยอดอาหารที่ว่านี้ คืออะไร อิอิ.. ตามไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ



 1. เบอร์รี่ 

          แม้ว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จะเคยเป็นผลไม้ที่หาทานได้ยากในบ้านเรา แต่ในสมัยนี้เห็นจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้วล่ะค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้เค้ามีขายกันเกลื่อนตามห้างสรรพสินค้า และท้องตลาดบางแห่งด้วยแน่ะ คุณ ๆ รู้ไหมคะว่า ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั้น ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารได้มากเลยทีเดียว แถมยังมีแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ และที่สำคัญ ยังมีวิตามิน C ที่ช่วยในเรื่องผิวพรรณและหวัดอีกด้วย

ไข่ไก่

 2. ไข่ไก่ 

          ไข่ไก่เป็นสุดยอดอาหารที่หาง่ายมาก ๆ แถมยังราคาถูกอีกแน่ะ คุณ ๆ รู้ไหมว่า ไข่ไก่นั้นเป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพสูง ที่ทำให้คุณได้พลังงานแต่ไม่อ้วน แถมมีประโยชน์ในการบำรุงสายตา อ้อ แถมยังมีลูทีนที่จะป้องกันผิวคุณจากการทำลายของแสงแดดอีกด้วย



  3. ถั่ว 

          ถั่วเป็นแหล่งของเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยในการส่งผ่านออกซิเจนจากปอดไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย โดยในถั่ว 1 ถ้วย จะให้ธาตุเหล็กประมาณ 16 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สูงเลยทีเดียว นอกจากนี้ ถั่วยังมีไฟเบอร์ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายได้ง่ายอีกด้วย

มะม่วงหิมพานต์

  4. อัลมอนต์ แม็คคาเดเมีย และมะม่วงหิมพานต์ 

          เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ จากการศึกษาของนักโภชนาการ พบว่า ผู้ที่รับประทานเมล็ดพืชเหล่านี้จะมีอายุยืนกว่าผู้ที่ไม่ได้ทานถึง 2 ปีครึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีโอเมก้า 3 เอแอลเอ ที่จะส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้น ที่สำคัญยังช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีด้วย

ส้ม


 5. ส้ม 

          เป็นแหล่งวิตามิน C คุณภาพ ที่มีประโยชน์ต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค รวมทั้งยังมีไฟเบอร์สูง เป็นแหล่งของแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ ที่จะช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกทำลาย และเสริมสร้างคอลลาเจนในผิว เรียกว่าคุณประโยชน์ครบครันเลยทีเดียว

มันเทศ

 6. มันเทศ 

          อาหารที่หาได้ง่าย แถมยังให้ประโยชน์มากมายกับสุขภาพอีก มันเทศเป็นแหล่งเบตาแคโรทีนชั้นดีที่ช่วยในการบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และที่หลาย ๆ คนคิดไม่ถึง คือ มันเทศมีสารต้านมะเร็งสูงอีกด้วยค่ะ

บร็อกโคลี

  7. บร็อคโคลี่ 

          เป็นแหล่งของวิตามินซี เอ และเค เป็นผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตา และมีสารไอโซธิโอไซยาเนทส์ (Isothiocyanates) ที่ช่วยต่อต้านมะเร็งปอด รวมถึงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ วิตามินเคยังเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกด้วย

ชา

  8. ชา 

          แม้ว่าชาจะเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ไม่ได้ให้ผลดีต่อสุขภาพเท่าไหร่ แต่รู้ไหมว่า การดื่มชาในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์ มะเร็ง และทำให้สุขภาพฟันและกระดูกแข็งแรงขึ้น เพราะในชานั้นมีสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ที่เรียกว่า ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ

คะน้า

  9. คะน้า 

          มีสารเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด รวมถึงมีวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ สร้างภูมิต้านทานโรคที่ดี นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมเสริมสร้างการทำงานของกระดูก

โยเกิร์ต

  10. โยเกิร์ต 

          อาหารสุขภาพที่หลาย ๆ คนมักจะซื้อไว้ติดบ้าน เอาไว้ทานยามหิว และนั่นเป็นสิ่งที่ดีแล้วค่ะ เพราะในโยเกิร์ตนั้นมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามินบี 12 และโปรตีน ดังนั้น ถ้าคุณทานโยเกิร์ตให้ได้วันละ 1 ถ้วย จะทำให้สุขภาพคุณดีอย่าบอกใครเลยล่ะ


10 สุดยอดอาหาร ทานทุกวัน บทความ อาหารเพื่อสุขภาพ สุขภาพ เมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:30:56 ที่มา: www.kapook.com  โดย : kura 

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS